วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

การสร้าง Floder

การสร้างโฟลเดอร์เป็นพื้นฐานอีกอย่างหนึ่งของการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเก็บแยกเก็บไว้เป็นหมวดหมู่ข้อมูลซึ่งปกติเราคุ้นเคยกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็น Linux หรือ Windows โดยวิธีการสร้างมีคำสั่งดังนี้


mkdir ตามด้วยชื่อ



โดยถ้าเราไม่ใส่ path ให้มันจะสร้าง Folder นั้นที่ Home ของแต่ละ User อย่างตอนนี้ผมใช้User ว่า Keng มื่อเข้าไปดูใน Folder home/keng ก็จะเห็นได้ว่ายังไม่มีปรากฎ อะไร


แต่เมื่อ ป้อนคำสั่งแล้ว จะเห็นได้ว่า มี Folder ใหม่เกิดขึ้นใน home/keng

วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

root ของ linux

Root เป็นuserของ Linux ประเภทหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ทุกอย่างใน linux ส่วนใหญ่จะโดนกำหนดมาจากตอนสร้าง หรือ ลง Linux นั้นเลย

เป็นภาระและหน้าที่สำคัญมาก ดังนั้นการเก็บ Password ของ Root นั้นถือเป็นสุดยอดของการรักษาความผลอดภัยในระดับต้นๆ ของการทำงานดูแลระบบ เพราะถ้าใครได้ Password ไป ก็เหมือนเป็นเจ้าของระบบเพราะสามารถทำได้ทุกอย่าง

วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

top

คำสั่ง top นั้น ใช้เพื่อดูการทำงานของ linux ว่าทำงานโดยใช้ทรัพยากรไประดับไหนแล้ว โดยเมื่อใส่ทำคำสั่งนี้แล้วเราสามารถดูการทำงานของระบบ อย่าง Real time

ซึ่งตัวระบบ Linux จะรวมข้อมูลของงานทั้งหมดที่กำลังปฎิบัติการณ์อยู่ในขณะนี้ ซึ่งถูกจัดการโดย Kernel

ซึ่งในคำสั่ง Top จะให้รายละเอียดเกี่ยวการทำงานของ Linux ไว้หลายเรื่อง เช่น swap, Process ID ,งานที่ทำอยู่, cup, Memory ที่ใช้เป็นต้น

ถ้าเทียบก็เมื่อ Task management ของตระกูล Window นั้นละครับ

ฉันคือใคร who i am

Commandline อีกตัวที่ได้ใช้บ่อยอย่างไม่น่าเชือใน Linux คือ

whoami 


ซึ่งไว้บอกว่าตอนนี้ใครเป็นผู้ใช้ ซึ่งเป็นคำสั่งง่ายแต่ได้ใช้บ่อยในการทำ System admin เพื่อให้ทราบว่าเราเข้ามาใน ชื่อผู้ใช้อะไร

ปุ่ม ctrl ใน Bash

การใช้ command-line ใน linux นั้น มีการใช้ ปุ่มลัดพวก "ctrl +" อยู่หลายตัวเหมือนกัน โดยส่วนใหญใช้เพื่อทำงานให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น





  • ctrl + c ใช้เพื่อออกจากคำสั่งทันทีหรือโปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่ใน Bash ดังตัวอย่าง

    ผมใช้คำสั่ง top




    เมื่อเรียกคำสั่งมาแล้ว โปรแกรมก็จะทำงาน และเราไม่สามารถทำงานคำสั่งอื่นๆต่อได้ ถ้าเราอยากจะใช้ command ใหม่ โดยไม่ติด เราก็กด Ctrl+C


    ซึ่งตามรูปเราก็สามารถป้อนคำสั่งใหม่ได้ทันที



    • ctrl + z

    คำสั่งถัดมาคือ ctrl + z คล้ายกับ Ctrl + c แต่ ctrl + z ใน Linux นั้นเหมือนการหยุด หรือ Stop นั้นเอง

    ซึ่งดูจากรูปได้วว่าจะมีคำว่า Stop คำสั่งนั้นๆ ขึ้นมา เป็นสิ่งที่แตกต่างกับ Ctrl+c อย่างชัดเจน

    และอีกสิ่งคือ การใช้ man เพื่อให้อธิบายคำสั่งต่างๆ ใช้ Ctrl+z ถึงออกจาก man ได้

    • Ctrl+D

    จะเป็นการไปที่จุดจบของไฟล์ใน Bash หรือ EOF สามารถทดสอบโดยใช้ man ดูครับ พอกด Ctrl+D ก็จะถัดไปทีละหน้า

    ซึ่งยังมี Ctrl ตัวอื่นๆอีก ที่ขอมาอธิบายในโอกาสต่อไปแล้วกันครับ

    วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2552

    การสร้าง User

    งานอีกประเภทที่ System admin ได้ทำกันบ่อย คือการสร้างผู้ใช้ หรือ User นั้นเองครับ เพราะผู้ใช้ระบบเป็นผู้ที่สามารถเข้ามาทำงานในระบบ โดยที่ไม่ใช่ Root



    วิธีการสร้างคือ ใช้ Command



     useradd NAME


    useradd เป็น commad ที่ใช้ในการสร้าง user ใหม่


    NAME ก็เป็นชื่อหรือ Username ที่จะสร้างใหม่นั้นเอง ตามรูป
    ที่ผมสร้างเป็น User ชื่อ gkenglinux

    คำสังก็เป้น
    useradd gkenglinux 

    -------------------------------------------------------------

    จากนั้นก็มาสร้าง Password ให้กับ gkenglinux ใช้คำสั่งนี้


     passwd NAME 



    passwd เป็น Command ที่ใช้สร้าง,เปลี่ยน Password ของผู้ใช้ระบบ

    NAME ก็เป้นเลือกว่าใครจะโดนเปลี่ยน Password



    โดยคำสั่งจะสร้าง Password ของ gkenglinux คือ


     passwd gkenglinux



    เมื่อป้อนคำสังแล้วผลเป็นดังรูป

    ผลที่ได้คือ เราต้องพิมม์ Password 2 ครั้ง ***เวลาพิมพ์จะไม่ขึ้นอะไรมาให้เห็น อย่าพลาดนะครับ****

    ถ้าการสร้าง Password เราไม่ปลอดภัย มันจะแจ้งเตือนมาให้

    เมื่อเรียบร้อยเราก็สามารถใช้งาน Usernameใหม่ได้ทันทีครับ

    การสร้าง Folder ใน Linux ด้วย GUI

    คราวนี้เรามาดูว่าการสร้าง Folder ใน Linux ได้ด้วย GUI ทำอย่างไร


    วิธีก็เหมือน window นั้นละครับ

    ไปที่ต้องการสร้างโฟลเดอร์ แล้ว Click ขวา แล้วเลือกที่ Ceate Folder

    จากนั้น เราก็ได้ Folder ใหม่ เราก็ต้องชื่อง แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ

    การสร้าง Folder ใน Linux ด้วย Command line

    เรามาพูดพื้นฐานหลักในการจัดการข้อมูล Linux เบื้องต้น คือการสร้าง Folder หรือ Directory นะครับ

    จากรูปนี้เป็นรูป Folder ทั้งหมด ใน Linux

    วิธีสร้างคือ เขียน Command-Line ว่า mkdir ซึ่งเป็น คำสั่งที่ใช้สร้าง Directory นั้นเอง ซึ่งมาจากคำว่า make directory นั้นเอง

    ต่อด้วย เงือนไข ที่ต้องการสร้าง Folder โดยผมจะสร้าง Folder ชื่อ lovelove ใน /

    โดยได้คำสั่งมาดังนี้

    mkdir /lovelove ตามรูป

    เมื่อป้อนคำสั่งแล้ว เราจะได้ Folder ดังรูปครับ

    เราได้ Folder ใหม่มาตามที่เราตั้งชือไว้

    วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

    โครงสร้างของ Linux command

    โดยปกติการเขียน Command ใน Linux ทุกตัวนั้น มีองค์ประกอบสำคัญอยู่ 3 ประการ คือ

    Commands ส่วนที่เป็นคำสั่งหลักขึ้นมาก่อนเป็นสิ่งแรก เช่น ls rm cp เป็นต้น

    Options ส่วนที่เป็นตัวเสริมคำสั่ง พวก -a -g ทั้งหลาย จะตามส่วน Commands ซึ่งอาจมีได้มากกว่า 1 Options ซึ่งสามารถเขียนติดๆ กันได้ เช่น ls -lh = ls -l-h

    Arguments เป็นส่วนที่ใช้แบบเจาะจงกับคำสั่งต่างๆ เช่น เป็น Pathของไฟล์ หรือ ข้อความ หรือ ชื่อผู้ใช้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่า Commands นั้นเป็นอะไร

    ซึ่ง Commands,Options,Arguments นั้นสามารถอ่านรายละเอียดต่างๆ ได้จาก คำสั่ง man

    เวลาเราใช้คำสั่ง command line อะไรก็ขอให้เรารู้ว่าโครงสร้างของคำสั่งอะไรเป็นอะไร จะสามารถช่วยการทำงานของเราให้ง่ายขึ้นได้มาก

    วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2552

    man คู่มือช่วยให้เข้าใจใน Linux

    man นั้นเป็นเหมือนเครื่องมือที่ใช้อ่านวิธีการใช้ต่างๆ ใน Linux ตัวอย่างเช่น


    man useradd


    ผลที่ได้ก็จะมีการนำเสนอวิธีการใช้ useradd ทั้งเรื่องของ Commands, Options, Arguments ของ คำสั่ง useradd

    ซึ่งถ้าใครอยากเก่ง Linux นั้น ควรอ่าน และต้องอ่าน man เยอะนะครับ เพราะทำไว้ละเอียด และทำให้เราเข้าใจคำสั่งวิธีการใช้ด้วย โดยส่วนใหญ่เวลาเราหาวิธีใน Google อาจได้มาเฉพาะคำสั่งอย่างเดียว ไม่เข้าใจถึงหลักการ และวิธีการใช้ ก็ลองขอให้ใช้คำสั่งนี้ แล้วลองอ่านดูนะครับ
    เดี๋ยวผมคงมาอธิบายเพิ่มเติมต่อแล้วกันนะครับ

    วันพุธที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2552

    Command-Line สิ่งคู่กับ Linux

    Command-Line คือที่เราพิมคำสั่งต่างๆ ที่ใช้ในการควบคุม ดูแล จัดการ ระบบ Linux ถือเป็นมนต์คาถาสำหรับผู้ดูแลระบบเลยก็ว่าได้ โดย Feroda วิธีเรียก ใน GUI ก็อยู่ที่ ตามรูปเลยนะครับ
    ใน Linux นั้น คำสั่งต่างๆ มีมากมาย จนไม่รู้ว่ามีเท่าไร รวมถึงคำสั่งที่ใช้กับ Application อื่นๆ อีกด้วย
    แต่คำสั่งที่ใช้หลักๆ ก็เช่น

    man
    ls
    passwd
    inti 3
    ..............
    .........
    ......
    ...
    .
    เยอะยะมากมาย

    ซึ่งต่อไปในนี้คงจะเขียนเรื่อง Command-Line อีกมากนั้นครับ เตรียมตัวกันนะครับ

    Vi Text editor

    Vi ย่อมาจาก visual editor อ่านว่า “vee-eye.”(Robbins,Hannab,Lamb,3,2008)

    Vi เป็น Text editor ของ Feroda และของ Linux ทุกตัว รวมถึง Unix ก็ใช้ ซึ่งเป็นตัว Editor ที่ผมโดนบังคับใช้ตอนเรียน อาจารย์ ดร.วรา บอกเพื่อความสะดวกในการดูแลระบบ เพื่อไปเจอ ระบบโบราณมาก ก็สามารถใช้ VI ได้แน่นอน

    Vi ทำหน้าทีอ่าน แก้ไข ไฟล์ คำสั่งต่างๆ ของ โปรแกรม linux ที่กรณีไม่มี GUI ให้ใช้ หรือ แก้บางไฟล์ที่เฉพาะ

    วิธีใช้

    ไปที่ Terminal (ถ้าอยู่ใน Fedora ที่มี GUI)


    แล้วพิมพ์

    vi [ไฟล์ที่ต้องการ ถ้าอยู่ใน Folder ก็ไล่ path ไปเรื่อย]

    ตัวอย่าง
    vi /etc/../.../... ประมาณเนี่ย

    แค่นี้ก็เป็นการเปิด Vi ใช้แล้ว หน้าตาเหมือน Terminalแบบเนี่ยละครับ

    คราวต่อไป จะมาอธิบายเพิ่มเติม เกี่ยวกับการใช้ Vi นะครับ

    วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552

    Install Feroda9

    การ ติดตั้ง Linux นั้น แบบง่ายๆ ก็คือเมื่อ load มาแล้วก็ไป ไรท์ใส่แผ่น แล้วมาใส่ในคอมพิวเตอร์เพื่อการติดตั้ง

    เมื่อเริ่มต้นทำการติดตั้ง Fedora จะเริ่มถามว่าจะทำการทดสอบก่อนการติดตั้ง ขั้นตอนนี้ครั้งแรกลองทดสอบก่อนก็ได้ หรือใครอยากข้าม ก็ มาเลือก Skip เลย

    เมื่อกดทดสอบเสร็จ หรือ/และ กด Skip มาแล้ว ก็จะเริ่มทำการ Setup
    จากนั้นทำการเลือกภาษานะครับ แต่แนะนำทีให้เป็นภาษาอังกฤษดีกว่าครับ

    เลือกระบบ Keybroad

    มาตั้งค่าของ Network เลือก DHCP ถ้าใครมี Router หรือตั้งชื่อ แบบ Localhost ก็ได้

    เลือกภูมิภาค ได้เกี่ยวการตั้งค่าเวลา ก็แนะนำว่า Bangkok ครับ


    *******************ส่วนนี้สำคัญสุดคือ การตั้งค่า Password ของ root ซึ่งแนะนำว่าห้ามลืม ส่วนใครนำไปใช้จริงก็ถือว่าเป็นความลับสูงสุดของระบบเลยนะครับ

    อันนี้แบ่ง Partition แรกๆ ก็กด next ไปก่อนนะครับ แล้ว Fedora จะทำการแบ่งให้ เดียวคราวหลังผมจะมาเขียนอธิบายเพิ่มอีกทีนะครับ

    ส่วนนี้ เป็นส่วนที่สำคัญสุดรองจาก Root ครับ คือการเลือก Application ต่างๆ ของ Linux อยากให้เครื่องเราเป็น Destop ทำงานปกติ หรือ เป็น Server อะไรก็เลือกเลยครับ
    ซึ่งมีให้เลือก 3 ส่วนหลักๆ คือ
    Office
    Software Development
    Web sever
    แต่แนะนำให้ไปที่ Cutomize now แล้วกด Next
    เราจะสามารถเลือก โปรแกรม Application ต่างๆได้ (ลงไปก่อน แล้วค่อยไปอัพเดท ที่หลัง)
    เลือกเสร็จแล้วกด next เพื่อเข้าสู่การติดตั้ง Fedora ได้แล้วครับ
    หน้าที่คือ รอ
    ซึ่งนานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับเราเลือก App ไว้มากแค่ไหน
    เมื่อเสร็จสิ้นแล้ว เครื่องก็จะทำการ Restart

    จากนั้นก็จะมี อะไรอีกเล็กน้อยให้เรา setup บังเอิญลืม cap ภาพไว้ แต่คิดว่าคุณคงทำได้อยู่แล้ว เมื่อ Login เข้าไปก็ใช้ Root เป้นตัว login และ Password ที่เราตั้งไว้นั้นละครับ

    วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2552

    Fedora เริ่ม Linux กันที่นี่

    ตอนนี้เรามาพูดถึงว่าเราจะลองใช้ Linux ตัวที่ผมแนะนำคือ Fedora โดย Fedora นั้นได้รับการสนับสนุนจาก Redhat ที่เป็น Linux อีกรายที่ได้รับความนิยมสูง เป็นผู้ให้การสนับสนุนโครงการ Fedora

    "Fedora เป็นระบบปฎิบัติการที่พัฒนามาจาก Linux ประกอบด้วยซอฟต์แวร์ฟรีและเปิดเผยต้นรหัสที่ถูกพัฒนาโดยผู้คนรอบโลกที่ทำงานร่วมกันเป็นชุมชนเปิด Fedora จะอนุญาตให้ใช้งาน, แก้ไขและแจกจ่ายได้อย่างอิสระเสมอ "

    สรุปง่ายๆ คือ Fedora เป็น Open source ที่ใช้งานได้ฟรีนั้นเอง

    เหมาะสำหรับที่ผู้ต้องการศึกษา Linux โดยเริ่มต้น เนื่องจาก Linux ส่วนใหญ่นั้น มีหลายค่ายมาก แต่โดยเนื้อแท้ของ Linux นั้นเหมือนกัน วิธีทำงานข้างใน Linux เหมือนกันแท้จริง เพราะมันเป็น Linux แต่เนื่องจากมี Linux หลายค่าย ซึ่งแข่งกันพัฒนา เพื่อความสะดวก ง่าย และอื่น ทำให้ มีการใช้งานที่ต่างกันบ้าง ซึ่งผมคงมีโอกาสได้กล่าวถึงในบทความต่อๆ ไป

    ดังนั้นก่อนที่เราจะศึกษา Linux ต้องทำการโหลด Fedora มาก่อน ที่นี้ http://fedoraproject.org/th/get-fedora-all

    ปัจจุบันนี้ มันมีหลาย เวอร์ชั่นขึ้น ขอให้โหลด ตัวใหม่ล่าสุด ผมใช้ตัว 3 Gig กว่า ส่วนเวอร์ชั่นในวันนี้ที่ โหลดมาใช้ คือ Fedora 11 ต่อไปในอนาคตก็คงเปลี่ยน Version ไปเรื่อยๆ

    หลังจากที่อ่านบทความนี้แล้ว ขอให้ทุกคนลองโหลดมาใช้ก่อนนะครับ

    วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552

    บทความเริ่มต้น

    อีก Blog ที่ผมเขียนเกี่ยวกับ IT ซึ่งเน้นไปที่ Linux จุดประสงค์ที่อยากให้ได้รู้จัก Linux เพราะ อย่างแรกคือส่วนใหญ่ Linux มันฟรี อย่างนี้ ก็ถูกุกฎหมาย และส่วนใหญ่องค์กรถ้าใส่ ก็เป็นการลตต้นทุนที่ดี อีกทาง

    ตอนผมเรียน อาจารย์ให้ใช้ Linux เพราะมัน ไม่ค่อยมี nextๆ clickๆ ok ok และมันใช้ไม่ง่ายเหมือน Windows ซึ่งเป็นวิชาที่น่าสนใจมาก เพราะได้เรียนรู้อะไรมากมายที่ไม่ใช่ทฤษฎีจากหนังสือ IT อย่างเดียว เพราะได้เห็น การนำ Application โปรแกรม หรือ Software ต่างๆ ใช้แล้วดู ในเห็น ถึงว่ามันทำงานอย่างไร

    ผมคงพูดเรื่อง Admin ต่างๆของ Linux

    ลองติดตามอ่านดูนะครับ จากประสบการณ์ผม คงให้ความรู้ ไม่มากก็น้อย